"ชินวรณ์" ปลุกเครือข่าย นศ.ฟ้อง ม.ฉาว ฐานทำให้เสียสิทธิ
สยามรัฐ
กก.สอบ ข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิดเบื้องต้น แต่ยังไม่ลงดาบ!รอสรุปอีกรอบ 25 เม.ย.นี้ หากผิด พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ต้องตั้งกรรมการคุมควบ มุ่งเอาผิดอธิการฯ "ชินวรณ์" แนะ นศ.ตั้งเครือข่าย ฟ้องกลับมหา'ลัย ฐานทำให้เสียหาย ทั้งแพ่ง-อาญา
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.54 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มีการปลอมและซื้อขายปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิตวิชาชีพครู) หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตั้งขึ้นเข้าไปตรวจสอบพบว่า การดำเนินการของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีมูลในการที่จะนำไปสู่การปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน ทั้งในส่วนของการออกใบแสดงผลการเรียน แบบประเมินผลการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ใบเสร็จรับเงินค่าหน่วยกิต การไม่มีการจัดทำทะเบียนนักศึกษา และไม่มีการจัดทำแฟ้มข้อมูลประวัติประจำตัวนักศึกษา โดยการดำเนินการเหล่านี้ หากพบว่าไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 ก็อาจจะนำไปสู่การสั่งการให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ อยู่ในความควบคุมของ สกอ. ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2546 มาตรา 86(2)
"ผมมอบให้เลขาธิการ กกอ.เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาตัวผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบ เพราะเป็นคดีสำคัญ อีกทั้งจะต้องขยายผลไปยังสถาบันอุดมศึกษาแห่งอื่น ที่อาจจะมีการซื้อขายปริญญา หรือออกใบปริญญาที่ไม่ได้มาตรฐานตามหลักสูตร และผมขอเชิญชวนให้นักศึกษา ที่จบจากมหาวิทยาลัยที่อาจจะมีปัญหาเรื่องการออกใบปริญญาบัตร รีบเข้าตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยของตนเอง หรือหากไม่แน่ใจก็ให้ตรวจสอบกับ สกอ. และขอให้นักศึกษารวมกลุ่มกันตั้งเป็นเครือข่าย เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับมหาวิทยาลัยที่ทำให้นักศึกษาเสียสิทธิ ถูกละเมิดสิทธิ หรือทำให้ต้องเสียหาย ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุน เพื่อถอนรากถอนโคนกระบวนการดังกล่าวนี้ให้หมดไปจากระบบการศึกษาของไทย"
นายชินวรณ์ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อมหาวิทยาลัย ที่มีการซื้อขายปริญญานั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงอยากให้กระบวนการนี้เสร็จสิ้นก่อน
ด้านนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าว ว่า การสั่งให้มหาวิทยาลัยอยู่ในความควบคุมของ สกอ.นั้น ขณะนี้ยังเป็นเพียงการวิเคราะห์ในเชิงกฎหมายเท่านั้น คงต้องรอบทสรุปและชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการฯ ให้ชัดเจนก่อน รวมทั้งต้องรอหลักฐานเอกสารจากอธิการบดีด้วย ซึ่งจะมีการรายงานผลในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จากนั้น สกอ.จะนำผลเสนอไปยัง รมว.ศึกษาธิการ และเสนอประเด็นการเข้าไปควบคุมมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนให้ รมว.ศึกษาธิการ วินิจฉัยต่อไป และเมื่อมีคำสั่งออกมา สกอ.จะเสนอให้คณะกรรมการ กกอ.พิจารณาอีกครั้ง โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการ กกอ.นัดพิเศษในวันที่ 27 เม.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอองค์ประกอบคณะกรรมการควบคุมให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
"ขณะนี้แนวทางการสอบข้อ เท็จจริงเบื้องต้น ชี้ประเด็นไปที่ความรับผิดชอบของอธิการบดี ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบในประเด็นนี้หมดแล้ว หาก รมว.ศึกษาธิการ มีการวินิจฉัยให้ตั้งคณะกรรมการฯ เข้าไปควบคุม ก็จะถือว่าเป็นการยกเลิกสภามหาวิทยาลัยไปโดยปริยาย ส่วนความผิดทางกฎหมายคงต้องดูแนวทางการสอบสวนก่อน จะวินิจฉัยในขณะนี้ไม่ได้"
นายสุเมธ กล่าวและว่า การเข้าควบคุมมหาวิทยาลัยนั้นในกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลานานเท่าใด แต่เราจะควบคุมจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าระบบได้เข้าที่เข้าทางแล้ว จึงจะมอบให้ผู้ถือใบอนุญาตไปดำเนินการต่อ ทั้งนี้การถอนถอนการควบคุมคงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการหลายฝ่าย ซึ่งนอกจากคณะกรรมการควบคุมจะเป็นผู้เสนอแล้ว ทางคณะกรรมการ กกอ.จะต้องเป็นผู้วินิจฉัยกลั่นกรองด้วยก่อนที่จะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ ถอดถอนการควบคุมต่อไป
+++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น