"ซิป้า" ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางธุรกิจดิจิตอลมีเดียใหม่ในเอเชีย จดปากกาลงนามกับภาคธุรกิจดิจิตอลกว่า 12 ประเทศ คาดเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท กางแผนต่อไปเตรียมจัดโรดโชว์ในอนาคตมากกว่า 2 พันล้านบาท ขณะที่ม.พระจอมเกล้า-ศรีปทุมรวมถึงบริษัทเกมในไทยอย่าง Debuz โดดร่วมวง
นายสันติ สุรรัตน์ รองผู้อำนวยการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ซิป้า ได้ลงนามเซ็นสัญญาความร่วมมือ( MOU) ของผู้ประกอบการธุรกิจดิจิตอลลมีเดียและซอฟต์แวร์ทั้งไทยและนานาชาติกับโปรเจ็กต์ "The Creative Collaboration 20113 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ ซิป้า จะเป็นสื่อกลางช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะกับบริษัทต่างชาติ และเกิดการลงทุนทางธุรกิจ เกิดผลเชิงพาณิชย์ของภาคธุรกิจไอซีทีด้านดิจิตอลมีเดียของไทยในอนาคต และยังต่อยอดผลักดันให้ธุรกิจดิจิตอลมีเดียและซอฟต์แวร์ไทย รวมทั้งซอฟต์แวร์เกมได้ขยายเติบโตไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตามการลงนามเซ็น เอ็มโอยู วางเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทของประเทศไทยได้ทำงานตามแนวความคิด แนวทางของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคตที่จะมีการเติบโต และประกาศถึงความสามารถของบุคลากรไทยให้กับนานาชาติทราบถึงศักยภาพ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาด้านธุรกิจนี้ในเยาวชนยุคใหม่ เพื่อจะสามารถขยายตลาดไทยให้กว้างขึ้น
"หลังเซ็นสัญญาแล้วลำดับต่อไปก็จะเป็นการต่อยอดของทางส่วนผู้ประกอบการกับทางคู่ค้าเอง จะเป็นการเสริมทางธุรกิจด้านไหนก็แล้วแต่ทางคู่เจรจาจะต่อรองกัน ซึ่งผู้ที่ร่วมโครงการในไทยครั้งนี้จริงๆ มีถึงกว่า 100 ราย โดยมีผู้เข้าร่วมเซ็นสัญญาครั้งนี้มีประมาณ 20 ราย มูลค่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 2 พันล้านบาทได้เลยทีเดียว"
นายสันติ กล่าวอีกว่า การเซ็นสัญญาร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจาก DMA 2010 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทต่างชาติหลาย ๆประเทศ โดย ซิป้า จะเป็นส่วนกลางที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้ได้ก้าวต่อไปข้างหน้า สิ่งไหนที่คนไทยเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต ทั้งหมดเหล่านี้จะเป็นเครดิตของผู้ที่คิดงานสร้างสรรค์เหล่านี้ขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการสร้างโอกาสดีๆ ให้กับผู้ประกอบการในไทยและนักพัฒนารุ่นใหม่ๆที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถอยู่ในตัว และฝันที่จะโกอินเตอร์ แต่อาจจะขาดปัจจัยหลายๆ อย่าง โครงการ "The Creative Collaboration 20113 นี่เองก็สามารถช่วยให้วงการซอฟต์แวร์ และวงการเกมไทย รวมถึงแอนิเมชัน ดิจิตอลมีเดียของคนไทย ได้ก้าวสู่สากลด้วย
ส่วนของผู้ประกอบการของไทยกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ อันหมายถึง New Media, Game, Animation, Film และ IP Licensing ที่ได้แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ไทยไปแล้วในระดับนานาชาติ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการจากไทย 18 ราย และจากต่างประเทศ 22 รายซึ่งมาจาก 12 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม สปป.ลาว และประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือรวม 22 ฉบับ ซึ่งประมาณการว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าในประเทศไทยเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นอกจากนี้มีผู้ลงนามทางฝั่งกลุ่มธุรกิจเกมและแอนิเมชันแล้ว ในภาคการศึกษายังมีการลงนามที่น่าสนใจจาก 2 สถาบันชื่อดัง คือการลงนามความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางขุนเทียน (มจธ.) กับ National Authority of Posts and Telecommunications (NAPT) จาก สปป. ลาว โดยทาง มจธ. จะใช้เป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะและความสามารถในสหสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลนใน สปป.ลาว ทั้งร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยคณะดิจิทัลมีเดีย ซึ่งมีการลงนามร่วมกับสถาบันจากต่างประเทศถึง 2 สถาบัน คือ Southern Taiwan University จากประเทศไต้หวัน และ Shandong Academy of Information & Communication Technology (SAICT) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น