วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

นักวิทย์ระบุ"โอโซน"ขั้วโลกบางกว่าทุกปี

จากการระบุของหน่วยงานด้านสภาพอากาศ องค์การสหประชาชาติ พบว่า ชั้นบรรยากาศโอโซน บริเวณขั้วโลกเหนือหรือทวีปอาร์กติก ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต จากดวงอาทิตย์มาสู่โลกนั้น มีความบางเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา

ชั้นบรรยากาศของขั้วโลกเหนือที่ถูกทำลายนั้น มีความต่างจากรูรั่วโอโซนที่ขั้วโลกใต้ ซึ่งไบรอัน จอห์นสัน นักเคมีบรรยากาศจากห้องปฏิบัติการจัดการด้านมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศ แห่งสหรัฐอเมริกา ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด กล่าวว่า "มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน และผิดปกติ อย่างไรก็ตาม โอโซนในขั้วโลกเหนือยังคงมีปริมาณที่มากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นอย่างบริเวณเส้นศูนย์สูตร"

"
กรณีการลดลงของโอโซนในบริเวณอาร์กติกนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือ ทั้งไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และชายฝั่งภาคเหนือของรัสเซีย ประชาชนควรระมัดระวัง เมื่อต้องออกนอกบ้าน ด้วยการทาโลชั่น และสวมแว่นกันแดด" จอห์นสัน กล่าว

การศึกษาพบว่าช่วงปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา การบางลงของโอโซน ได้เคลื่อนตัวออกจากขั้วโลก ย้ายไปปกคลุมบริเวณประเทศกรีนแลนด์ และแถบสแกนดิเนเวียแทนแล้ว ส่วนความกังวลถึงสภาวะโลกนั้น หากเหตุการณ์นี้ยังคงเกิดขึ้นในทุกๆ ปี แม้โอโซนจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ทิศทางการลดลงของมัน ก็จะปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

ด้านตัวแทนนักวิทยาศาสตร์จากองค์การสหประชาชาติ ได้อธิบายถึงภาวะโอโซนในอาร์กติกเบาบางลงว่าการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่อาร์กติกเคยประสบในช่วงฤดูหนาวครั้งก่อนๆ นั้น บางครั้งแทบไม่ปรากฏการลดลงของโอโซนให้เห็นเลย แต่ในปีนี้ อาร์กติกมีฤดูหนาวที่อบอุ่นกว่าทุกครั้ง แต่ในชั้นสตราโตสเฟียร์กลับเย็นกว่าปกติ และชั้นบรรยากาศที่บางลงครั้งล่าสุดนี้ แม้ถือเป็นประวัติการณ์ แต่ไม่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ซะทั้งหมด เพราะการตรวจพบโดยดาวเทียมสำรวจ และลูกโป่งพยากรณ์อากาศนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของพื้นที่ที่มีการลดลงของโอโซนไว้ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อไป

นับว่าเป็นโชคดี ที่ในช่วงต้นยุค 70 เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายในประเด็นนี้ ทำให้ทั่วโลกเล็งเห็นความสำคัญ และร่วมกำหนดสนธิสัญญามอนทรีออล เพื่อพิจารณาการเลิกใช้สารซีเอฟซี ในสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งสารประกอบดังกล่าวสามารถสะสมอยู่บนชั้นบรรยากาศได้นาน ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีจึงจะสลายตัว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น