ชี้ชาวเอเชียติดเกม-สังคมออนไลน์

คมชัดลึก :สิงคโปร์-อาการ เสพติดเกม-เครือข่ายสังคมออนไลน์ระบาดทั่วเอเชีย คนรุ่นใหม่ห่างอุปกรณ์สื่อสารแทบไม่ได้ ชี้เป็นต้นเหตุโศกนาฏกรรมหลายหนในเกาหลีใต้ รัฐบาลหาทางแก้ไข

        สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคาร(19 เม.ย.)ว่า กระแสความนิยมเว็บไซต์เครือข่ายสังคมและเกมออนไลน์ในเอเชียแปซิฟิก ที่มาพร้อมกับการเป็นตลาดอุปกรณ์สื่อสารไฮเทคใหญ่สุดของโลก มียอดขายสมาร์ทโฟนกว่า 100 ล้านเครื่องต่อปี ทำให้ปัจจุบัน ชาวเอเชียรุ่นใหม่แทบจะอยู่ไม่ได้หากปราศจากอุปกรณ์เหล่านี้ เช่น น.ส.ฮันนา รุสลานา นกศึกษาสิงคโปร์ อายุ 22 ปี ที่ใช้ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โฟร์สแควร์และลิงก์อิน เธอมีเพื่อนบนทวิตเตอร์มากกว่าเพื่อนที่สถาบัน และเช็กข้อความบนไอโฟนทุก 15 นาทีเป็นอย่างน้อย

      แต่กรณีของรุสลานายังนับว่าเบามาก เมื่อเทียบกับโศกนาฏกรรมหลายกรณีในเกาหลีใต้ เช่น แม่เหนื่อยล้าจากการเล่นเกมออนไลน์ พลั้งมือฆ่าลูกชายวัย 3 ขวบเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และเด็กชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี แค้นมารดาที่ดุว่าเรื่องติดเกม สังหารแม่ตนเองก่อนฆ่าตัวตายตาม และกลางปี 2552 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปีชายวัย 41 ปี หลังจากที่ตนเองและภรรยาปล่อยลูกขาดอาหารจนตาย เพราะติดเกมเลี้ยงเด็กเสมือนจริงทางอินเทอร์เน็ต 

 รัฐบาลเกาหลีใต้ประเมินว่า ผู้เสพติดเกมมีประมาณ 2 ล้านคนจากประชากรเกือบ 50 ล้านคน ซึ่งในปีนี้ เกาหลีใต้ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้เปล่าสำหรับใช้ควบคุมเวลาที่อยู่หน้าจอ ขณะที่รัฐสภากำลังพิจารณาออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เล่นเกมออนไลน์ระหว่างเวลา 24.00-06.00 น. ที่เรียกกันว่ากฎซินเดอเรลลา

 ในสิงคโปร์ ประเทศที่มีอัตรามือถือ 1.4 เครื่องต่อคน ผลสำรวจนักศึกษาเมื่อต้นปีพบว่า ร้อยละ 88 พอใจการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีมากกว่าสนทนาแบบตัวต่อตัว และกว่าร้อยละ 40 ใช้เวลากับมือถือวันละ 4 ชั่วโมง  

 ที่ญี่ปุ่น กระทรวงมหาดไทยเตือนการเสพติดเกมและมือถือของคนรุ่นใหม่ว่า อาจทำให้พวกเขากลายเป็นคนเฉื่อยชา กระทบความสัมพันธ์ทางสังคมและสุขภาพ ศูนย์ผู้บริโภคแห่งชาติของญี่ปุ่นระบุว่า ความวิตกกังวลที่เกี่ยวข้องกับการเสพติดเกมออนไลน์จนต้องขอรับการปรึกษาจาก ศูนย์เพิ่มขึ้นจาก 1,437 คนในปี 2552 เป็น 1,692 คนเมื่อปี 2553 จำนวนมากเป็นเยาวชน

       สำหรับมาเลเซีย ผลการศึกษาโดยบริษัทวิจัยทีเอ็นเอสเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 พบว่า ชาวมาเลเซียเข้าสังคมอินเทอร์เน็ตมากที่สุด มีเพื่อนผ่านเว็บสังคมออนไลน์เฉลี่ย 233 คน เทียบกับ 68 คนในจีน และเพียง 29 คนในญี่ปุ่น ศูนย์ศึกษาอาการติดสังคมออนไลน์ในมาเลเซียระบุว่า ผู้ที่มีปัญหานี้ ส่วนมากเป็นคนรุ่นใหม่ และมีความโน้มเอียงผูกติดตัวเองกับคอมพิวเตอร์ ไม่สนใจเข้าสังคมในรูปแบบอื่น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++