องคมนตรี หนุนมหาวิทยาลัยร่วมรับผิดชอบต่อสังคม แนะเริ่มสร้างหลักคิด ปลูกฝังเด็กตระหนักผลประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าส่วนตน สมาชิกทุกคนของมหาวิทยาลัยถือเป็นแนวทางปฎิบัติ ส่วนศธ.ต้องมีหน่วยงานเฉพาะดูแลความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถาบันคลังสมองของชาติ มูลนิธิส่งเสริมทบวงมหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และชุดโครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรด้วยยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุดมศึกษา จัดสัมมนา มหาวิทยาลัยรับผิดชอบต่อสังคม...สังคมรับผิดชอบต่อมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 1 :จุดเปลี่ยน CSR กับคุณภาพการศึกษาไทย โดยมีศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอนันทมหิดล ปาฐกถาพิเศษ “จุดเชื่อม” พลังรวมของสังคม ตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่มหาวิทยาลัย หันมาให้ความสนใจและร่วมรับผิดชอบต่อสังคม เพราะการศึกษา ถือเป็นการพัฒนาประเทศ หากการศึกษามีคุณภาพ ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า โดยตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยมีทั้งหมด 6 ประการ คือ การผลิตความรู้ เทคโนโลยี ผลิตบัณฑิต บริการวิชาการแก่สังคม เสนอทางเลือกแก่ประชาชน สนับสนุนการศึกษาระดับอื่น และทำนุบำรุงวัฒนธรรมและธรรมชาติ ซึ่งในแต่ละพันธกิจสามารถนำเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคมมาบูรณาการได้
ทั้งนี้ แนวคิดของการรับผิดชอบแต่สังคม เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่เป็นเพียงองค์กรภาคธุรกิจเท่านั้นที่ต้องดำเนินการ แต่ 3 ภาคส่วนหลักของประเทศ ได้แก่ 1.องค์กรภาครัฐและระบบราชการ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่จะสร้างกลไกความเสมอภาค ความเที่ยงธรรม และให้โอกาสผู้ด้อยโอกาส รวมถึงรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชาติ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ ให้มีให้ได้ ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ว่าภาครัฐไม่มี แต่มีน้อย ดังนั้นภาครัฐต้องมีสิ่งนี้
2.องค์กรภาคธุรกิจเอกชน มีความรับผิดชอบสังคมในสินค้าและบริการของตน และยังต้องร่วมรับผิดชอบในความกินดีอยู่ดีของสังคม และ3.องค์กรภาคประชาสังคม ต้องร่วมรับผิดชอบให้สังคม มีภราดรภาพ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งองค์กรทั้ง 3 ส่วน ต้องทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนร่วม ประเทศมากที่สุด
ทั้งนี้ แนวคิดของการรับผิดชอบแต่สังคม เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่เป็นเพียงองค์กรภาคธุรกิจเท่านั้นที่ต้องดำเนินการ แต่ 3 ภาคส่วนหลักของประเทศ ได้แก่ 1.องค์กรภาครัฐและระบบราชการ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่จะสร้างกลไกความเสมอภาค ความเที่ยงธรรม และให้โอกาสผู้ด้อยโอกาส รวมถึงรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชาติ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ ให้มีให้ได้ ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ว่าภาครัฐไม่มี แต่มีน้อย ดังนั้นภาครัฐต้องมีสิ่งนี้
2.องค์กรภาคธุรกิจเอกชน มีความรับผิดชอบสังคมในสินค้าและบริการของตน และยังต้องร่วมรับผิดชอบในความกินดีอยู่ดีของสังคม และ3.องค์กรภาคประชาสังคม ต้องร่วมรับผิดชอบให้สังคม มีภราดรภาพ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งองค์กรทั้ง 3 ส่วน ต้องทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนร่วม ประเทศมากที่สุด
องคมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม (University Social Repondibility หรือ USR ) เริ่มแรกที่มหาวิทยาลัยต้องกระทำ คือการสร้างหลักคิด ถ้าส่วนร่วมอยู่ได้ดี ส่วนย่อยจึงจะอยู่ได้ดี โดยปลูกฝังให้เด็ก และผู้ใหญ่ได้ตระหนักว่าควรนึกถึงผลประโยชน์ส่วนร่วมก่อนส่วนตน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่เอาแต่พูด ขณะเดียวกันในส่วนย่อยต้องพึ่งพอตนเองให้ได้ และในส่วนย่อยหลายๆ ส่วนต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน
"มหาวิทยาลัยต้องศึกษา กำหนดนิยามและขอบเขตของ USR ให้ชัดเจน รู้จักเผยแพร่ นำไปสู่การปฎิบัติ โดยให้ USR อยู่ในแผนการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และผลการปฎิบัติ รวมถึงต้องสร้างศรัทธาให้บุคลากร นักศึกษา สมาชิกทุกคนของมหาวิทยาลัยถือเป็นแนวทางปฎิบัติ โดยผู้นำของมหาวิทยาลัยต้องเป็นผู้ริเริ่ม ก่อนที่จะไปขยายไปสู่หน่วยงานอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย รวมถึงอยากให้มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีอยู่ตอนนี้ว่าแนวทางใดบ้างที่ดี สร้างประโยชน์ได้จริง เพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม และกระทรวงศึกษาธิการต้องมีหน่วยงานเฉพาะ ดูแลความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม และอยู่ในระบบประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งหากทุกมหาวิทยาลัยรู้ว่าควรจะทำอะไรเพื่อสังคมไม่ใช่เพื่อมหาวิทยาลัย ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้"
"มหาวิทยาลัยต้องศึกษา กำหนดนิยามและขอบเขตของ USR ให้ชัดเจน รู้จักเผยแพร่ นำไปสู่การปฎิบัติ โดยให้ USR อยู่ในแผนการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และผลการปฎิบัติ รวมถึงต้องสร้างศรัทธาให้บุคลากร นักศึกษา สมาชิกทุกคนของมหาวิทยาลัยถือเป็นแนวทางปฎิบัติ โดยผู้นำของมหาวิทยาลัยต้องเป็นผู้ริเริ่ม ก่อนที่จะไปขยายไปสู่หน่วยงานอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย รวมถึงอยากให้มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีอยู่ตอนนี้ว่าแนวทางใดบ้างที่ดี สร้างประโยชน์ได้จริง เพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม และกระทรวงศึกษาธิการต้องมีหน่วยงานเฉพาะ ดูแลความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยต่อสังคม และอยู่ในระบบประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งหากทุกมหาวิทยาลัยรู้ว่าควรจะทำอะไรเพื่อสังคมไม่ใช่เพื่อมหาวิทยาลัย ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้"
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น