วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

วิทย์ยุ่นเจ๋งพัฒนาเข็มฉีดยาอัจฉริยะ ใช้ปากยุงต้นแบบ-ฉีดไม่เจ็บ

ยุงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นพาหะนำโรคร้ายต่างๆ มาสู่มนุษย์ แต่กับนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยคันไซ แห่งโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ไม่คิดเช่นนั้น เมื่อทีมวิศวกรเครื่องกลของที่นี่ได้พัฒนาเข็มฉีดยา โดยมีเข็มที่ปากของยุงเป็นต้นแบบ ในเป้าหมายที่ว่า จะสามารถสร้างเข็มที่ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนไข้ เหมือนกับเวลาโดนยุงกัดแล้วไม่รู้สึกเลยทีเดียว 

ศาสตราจารย์เซอิจิ อาโอยากิ หัวหน้าทีมพัฒนา กล่าวว่า เมื่อยุงดูดเลือดเหยื่อ ยุงจะปล่อยน้ำลายซึ่งมีโปรตีนบางอย่างออกมาด้วย และน้ำลายของยุงยังอยู่ในรอยเจาะ เป็นตัวการทำให้ผิวหนังหลั่งสารฮิสตามีน (histamine) ออกมา ฮิสตามีนจะกระตุ้นเส้นใยประสาทให้ส่งสัญญาณไปที่สมองแล้วทำให้เกิดอาการคัน ส่วนการทำงานของเข็มที่ปากยุงก็คือ ยุงจะมีท่อสำหรับใช้ดูดเลือดอยู่ตรงกลางระหว่างขากรรไกรฟันเลื่อย 2 อัน ที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งเป็นขากรรไกรนี้เองที่ทำหน้าที่เจาะเข้าผิวหนังของเหยื่อ และแช่อยู่อย่างนั้นตลอดการดูดเลือด

เข็มของศ.อาโอยากิ ทำจากซิลิกอน ออกแบบเหมือนโครงสร้างที่ปากยุงทุกอย่าง กล่าวคือมีท่อกลวงตรงกลางระหว่างขากรรไกรฟันเลื่อย 2 ชิ้น ซึ่งชิ้นส่วนที่เหมือนฟันเลื่อยอันเล็กๆ นี้ จะเป็นส่วนแรกที่เจาะทะลุผ่านผิวหนังก่อนที่เข็มเหล็กจะแทรกผ่านตรงกลาง นอกจากนั้น ยุงยังใช้วิธีสั่นชุดเข็มที่ปากเพื่อช่วยให้การดูดเลือดง่ายขึ้น ซึ่งเข็มของอาโอยากิก็ติดตั้งอุปกรณ์สร้างแรงสั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน

เข็มเลียนแบบยุงรุ่นปัจจุบัน มีขนาดเล็กมากเพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น และจากการทดสอบที่ผ่านมา เข็มสามารถดูดและถ่ายเทของเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อทดสอบกับมนุษย์ กลุ่มทดลองส่วนใหญ่ระบุว่ารู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่น้อยกว่าเข็มทั่วไป 

ในการนี้ อาโอยากิเชื่อว่าหากจำลองชุดปากทั้งหมดของยุงที่ยังเหลืออีก 7 อวัยวะ มาประกอบเข้ากับตัวเข็มก็จะทำ ให้เข็มรุ่นต่อไปลดอาการเจ็บได้โดยสิ้นเชิง เป้าหมายก็คือให้คนไข้แทบไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อถูกเข็มเจาะนั่นเอง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
'สาหร่ายน้ำมัน'ยอดพืชพลังงาน ทางออกใหม่โรงงานสีเขียว
ภายใต้บรรยากาศสารพัดภัยพิบัติ ทั้งอากาศหนาว น้ำท่วม  ที่ซัดกระหน่ำประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พลังงานสะอาดถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยโลกให้รับภาระจากมลภาวะน้อยลง นำไปสู่ทางออกของการพัฒนาที่ยั่งยืน

กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลัง งานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และบริษัท ล็อกซเล่ย์ ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่ายน้ำมัน เพื่อเป็นการบุกเบิกสร้างอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงจากพืชสาหร่าย 

ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก กล่าวถึงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจากสาหร่ายน้ำมันว่า ปัจจุบัน อยู่ในระยะการดำเนินโครงการเพื่อค้นหาว่าสายพันธุ์สาหร่ายแบบไหนสามารถให้ผลผลิตคุ้มค่าที่สุด โดยการผลิตน้ำมันจากสาหร่ายถือเป็นนวัตกรรมพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากใช้เวลาเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ สาหร่ายก็สามารถให้ผลผลิตเพื่อนำไปทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซลหรือน้ำมันเพื่อการบินได้แล้ว

"ผลผลิตน้ำมันต่อพื้นที่การเพาะเลี้ยงปลูกสาหร่ายสูงกว่าปาล์มน้ำมันถึง 30 เท่า นอกจากนี้ สาหร่ายยังสามารถเจริญได้ดีในประเทศไทยเนื่องจากเหมาะกับสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม อุณหภูมิเฉลี่ย 26-45 องศาเซลเซียส" ดร.อนุสรณ์ กล่าว

ส่วนขั้นตอนการเลี้ยงดูสาหร่าย ดร.อนุสรณ์ ให้รายละเอียดว่า เริ่มจากนำสาหร่ายมาปลูก ในพื้นที่ที่เหมาะสม สาหร่ายจะสังเคราะห์แสงและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อดำรงชีวิต ดังนั้น จึงสามารถนำประยุกต์ใช้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงงานปล่อยของเสียได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ สาหร่ายมีกว่า 1 พันสายพันธุ์ แต่ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ หนึ่ง ไมโครอัล เกล หรือสาหร่ายขนาดเล็ก สอง แมคโครอัล เกล หรือสาหร่ายขนาดใหญ่ ซึ่งสาหร่ายที่เหมาะสมสำหรับการนำมาทำเป็นพืชน้ำมันคือ ไมโครอัลเกล เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำมันสูงถึงร้อยละ 20-70 
ส่วนเทคนิคการสกัดแยกน้ำมันจากสาหร่ายมี 4 วิธีคือ หนึ่ง การบีบอัดเซลล์สาหร่ายด้วยเครื่องจักร สอง การใช้สารเคมีละลายเซลล์น้ำมันในสาหร่ายออกมา สาม การใช้เซลล์อัตราโซนิกกระตุ้นผนังเซลล์สาหร่ายแตกทำให้น้ำมันไหลออกมา สี่ การใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นให้ผนังเซลล์สาหร่ายแตกทำให้น้ำมันไหลออกมา
 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น