วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

ชุมชนเข้มแข็งผืนป่ามั่นคง"คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน"

คมชัดลึก : "การส่งเสริมป่าชุมชนเป็นงานที่กรมป่าไม้ ถือเป็นนโยบายสำคัญเพื่อสนับสนุนการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและความสมดุลของระบบนิเวศอันจะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
สุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว
 เริ่มตั้งแต่ปี 2551 กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งจำกัด (มหาชน) จัดโครงการ "กล้ายิ้ม คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการพัฒนาป่าไปปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชุมชนอย่างกว้างขวาง และสามารถอยู่ได้อย่างพอเพียงตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม และร่วมเผยแพร่ผลงานของชุมชนที่เข้มแข็ง  
 บุญทิวา ด่านศมสถิต  รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารองค์กรบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)บอกว่าการจัดโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญในด้านทรัพยากรป่าไม้และทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการด้านทรัพยากรป่าไม้มากมาย บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชนปจึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาผืนป่าให้มีความยั่งยืนต่อไป
 ไสว พุทธมา ประธานกรรมการป่าชุมชนบ้านห้วยไร่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานีผู้เข้ารับรางวัลถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เล่าว่า ป่าชุมชนบ้านห้วยไร่และห้วยไร่บูรพา อ.หนองวัวซอจ.อุดรธานี ได้รับอนุมัติจากกรมป่าไม้ให้จัดตั้งโครงการป่าชุมชนในปี 2552 มีพื้นที่ป่าชุมชนประมาณ 1545 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวามีสภาพป่าเป็นลักษณะผสมระหว่างป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้งมีพืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์เป็นป่าต้นน้ำและเป็นแหล่งอาหารที่ใช้หล่อเลี้ยงและดำรงชีวิตของคนในชุมชนตลอดทั้งปี ภายใต้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบของคณะกรรมการป่าชุมชนและการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
 นอกจากนี้ป่าชุมชนยังจัดตั้งคณะกรรมการกลุ่มเยาวชนจิตอาสารักษาป่าชุมชนโดยนำกลุ่มเยาวชนในท้องถิ่นเข้ามาศึกษาเรียนรู้ระบบการจัดการป่าชุมชนร่วมกับคณะกรรมการป่าชุมชนเพื่อให้เยาวชนเป็นแกนนำที่เข้มแข็งในการดูแลรักษาป่ารุ่นต่อไปในอนาคต
  "ทุกวันนี้ทำงานอย่างตั้งใจ ตั้งมั่นในการดูแลรักษาป่าชุมชนให้ป่ามีความยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลานหากเราตายไปแล้วลูกหลานจะได้มีป่าไว้ใช้ประโยชน์ ในอนาคตต่อไป"  ไสว พุทธมาประธานกรรมการป่าชุมชนบ้านห้วยไร่ กล่าว
 แม่หลอด บัวเรียน ทองโพธิ์ หนึ่งในสมาชิกโครงการ "คนรักษ์ป่าป่ารักชุมชน" ชุมชนบ้านห้วยไร่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เล่าว่าเมื่อก่อนป่าชุมชนแห่งนี้เคยมีต้นไม้ใหญ่ประมาณ 400-500 ต้นแต่ทุกวันนี้ถูกคนจากที่อื่นเข้ามาตัดไม้ทำลายป่า ทางชุมชนจึงปลูกทดแทนซึ่งตอนนี้ต้นไม้เหล่านี้กำลังเติบใหญ่ขึ้นมาให้ความอุดมสมบูรณ์เพิ่มอากาศดี เพิ่มแหล่งอาหารให้คนในชุมชนเข้ามาหาของป่าเลี้ยงปากท้องตามวิถีของคนอีสาน  
 จากความเข้มแข็งในการดูแลรักษาป่าและตระหนักในหน้าที่ของตนเองจึงทำให้ป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์อาหารของป่า ยารักษาโรค แหล่งเก็บหาฟืน สมุนไพร แหล่งท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้ พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์รวมถึงให้ประโยชน์แก่คนในชุมชนเมืองในการใช้น้ำประปาจากป่าต้นน้ำของชุมชนในการดำเนินชีวิต
 เช่นเดียวกับ แม่นาง นาง พุทธมา หนึ่งในสมาชิกโครงการ "คนรักษ์ป่าป่ารักชุมชน" ชุมชนบ้านห้วยไร่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เล่าว่าสมาชิกในครอบครัวมีทั้งหมด 6 คน คือ พ่อ แม่ ลูก และหลานทั้งหมดได้เข้าร่วมโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน"เพราะทุกคนในครอบครัวได้ตระหนักถึงประโยชน์และโทษที่ได้จากป่าชุมชนทุกคนจึงดูแล รักษาป่าชุมชน  เพื่อรักษาผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ช่วยเลี้ยงคนไทยให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป
 "ทุกครั้งที่ขึ้นไปที่ป่าชุมชนจะพาลูกและหลานมาด้วยจะสอนให้ลูกหลานทำตามตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เขาเรียนรู้การทำงานของเราเผื่อวันหน้าเราไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เขาจะได้ดูแลป่าผืนนี้ต่อไป"  แม่นางกล่าวทิ้งท้าย
      0 ขวัญเรียม  แก้วสุวรรณ0
+++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น