วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

5อาชีพคนไทยส่อสูญพันธุ์ "ตุ๊กๆ-พนง.บัญชี-ประมง" สวนทาง"พนักงานขาย"ทวีคูณคนทำมากขึ้น

มติชน
กระทรวงแรงงานเผย 5 อาชีพที่มีผู้ทำงานลดลงมากที่สุด ระบุ ผู้ผลิตสินค้านมและคนเลี้ยงสัตว์-ประมงเกษตรในเชิงเศรษฐกิจยังชีพ-บัญชี-ขับ ขี่มอเตอร์ไซค์และสามล้มรับจ้าง ชี้สาเหตุปัญหามลพิษ-เสียเปรียบกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ขณะที่อาชีพพนักงานขายมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น ผลการศึกษาระบุรายได้เฉลี่ย นักบิน-วิศวกร-ผู้พิพากษา-สถาปนิกสูงกว่า 1 แสนต่อเดือน สวนทางเกษตรอุตสาหกรรมพื้นบ้าน ชี้ให้เห็นการกระจายรายได้ประเทศยังไม่ทั่วถึง
กรมการจัดหา งาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยผลการศึกษาเรื่อง "ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอาชีพในช่วงปี 2553-2557" พบว่าอาชีพผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมและเลี้ยงสัตว์, ผู้ทำงานด้านการเกษตรและประมงในเชิงเศรษฐกิจแบบยังชีพ, เจ้าหน้าที่บัญชี, ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ขับสามล้อเครื่อง และผู้ขนส่งสินค้าต่างๆ เป็น 5 อันดับอาชีพที่มีผู้ทำงานลดลงเฉลี่ยมากที่สุด ขณะที่หมวดอาชีพพนักงานบริการพนักงานขายในร้านค้าและตลาดมีอัตราการเพิ่ม เฉลี่ยต่อปีถึงร้อยละ 5.54

ผลงานศึกษาดังกล่าวจัดทำโดยกองวิจัยตลาด แรงงาน กรมการจัดหางาน จำแนกรายละเอียดประเภทอาชีพที่มีจำนวนผู้ทำงานลดลงเฉลี่ยต่อปีมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมและเลี้ยงสัตว์ ลดลงเฉลี่ยปีละ 111,622 คน คิดเป็นร้อยละ -10.32, ผู้ทำงานด้านการเกษตรและประมงในเชิงเศรษฐกิจแบบยังชีพ ลดลงเฉลี่ย ปีละ 13,317 คน คิดเป็นร้อยละ -0.55, เจ้าหน้าที่บัญชี ลดลงเฉลี่ยปีละ 9,581 คน คิดเป็นร้อยละ -3.56, ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ขับสามล้อเครื่อง ลดลงเฉลี่ยปีละ 5,054 คน คิดเป็น ร้อยละ -1.93 และผู้ขนส่งสินค้าต่างๆ ลดลงเฉลี่ยปีละ 4,756 คน คิดเป็นร้อยละ -3.58 โดยการลดลงของผู้ประกอบอาชีพผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ นมและเลี้ยงสัตว์ และผู้ทำงานด้านการเกษตรและประมงในเชิงเศรษฐกิจแบบยังชีพ เป็นผลจากปัญหามลพิษ, การเปลี่ยนแปลงบนสภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบอาชีพ และการเสียเปรียบกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่าทั้งในด้านกำลังคน ความรู้ เทคโน โลยีและการตลาด

ผลการศึกษาระบุว่า หมวดอาชีพที่มีจำนวน ผู้มีงานทำเฉลี่ยมากที่สุดคือผู้ปฏิบัติงานฝีมือด้านการเกษตรและประมง จำนวน 12,418,274 คน คิดเป็นร้อยละ 35.3 รองลงมาเป็นพนักงานบริการ พนักงานขายในร้านค้าและตลาด จำนวน 5,244,605 คน คิดเป็นร้อยละ 14.9

สำหรับ อาชีพที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีของผู้มีงานทำมากที่สุด 10 ประเภทอาชีพแรก ได้แก่ ผู้บริหารองค์กรเพื่อมนุษยธรรมและองค์กรเฉพาะด้าน, เพื่อนร่วมกิจกรรม, ช่างเทคนิควิทยาศาสตร์และกายภาพและวิศวกรรมที่มิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น, ผู้ควบคุมปั้นจั่น รอกยก และเครื่องจักรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, นักสถิติ, ผู้ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นและช่างทำแว่นและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสายตาอื่นๆ, ช่างติดตั้งฉนวน, ช่างก่อสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างและงานที่เกี่ยว ข้องที่มิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น, เจ้าหน้าที่เครื่องคำนวณ และผู้จัดการฝ่ายบริหารงานด้านการคำนวณ

ส่วนเรื่องการกระจายรายได้ พิจารณาจากรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของผู้มีงานทำ พบว่าอาชีพ ที่มีรายได้สูงตั้งแต่ 100,000 บาทต่อเดือนมีจำนวน 33,936 คน คือประเภทที่ต้องใช้ความรู้ทางวิชาชีพในระดับสูงและส่วนใหญ่เป็นอาชีพ ในภาคบริการ เช่น นักบิน, วิศวกร, ผู้จัดการ ฝ่ายโฆษณา, ผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชน, ผู้พิพากษา และสถาปนิก เป็นต้น ส่วนอาชีพที่รายได้ต่ำเฉลี่ย 2,000-10,000 บาทต่อเดือน จำนวน 14,251,339 คน ส่วนใหญ่เป็นประเภท ผู้ปฏิบัติงานด้านการเกษตรและประมงแบบยังชีพ ผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมพื้นบ้านและอุตสาหกรรมขนาดย่อมแสดงให้เห็นว่าการ กระจายรายได้ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร

ผลการศึกษายังระบุอีกว่า แม้ช่วงปี 2549-2552 ประเทศไทยต้องเผชิญปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจไทยยังมีความเข้มแข็งและสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ยกเว้นปี 2552 ที่เศรษฐกิจไทยหดตัวเล็กน้อยเพียงร้อยละ 2.3 จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก และมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปี 2553 ฉะนั้น เชื่อมั่นได้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงต่อจากนี้ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่าง มั่นคงต่อไปและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอาชีพก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303100416&grpid=00&catid=&subcatid=

++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น