วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

'อุโบสถดิน'แรงศรัทธาวัดพอเพียงเทิดพระเกียรติ22ปีสังฆราชองค์ที่19

เดลินิวส์
วันที่  19  เมษายน  2554 ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช บริเวณพระตำหนักคอยท่าปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร
ลูก ศิษย์วัดกำลังเตรียมการทำความสะอาด เตรียมจัดข้าวของกันอย่างอลหม่าน ก็มีเสียงชายหนุ่มทักทายหนูอิ๋ว หรือ ธัญญารัตน์ ยางธิสาร เลขานุการพระราชรัตนมงคลว่า “อิ๋ว ๆ” ทำไมทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชเตรียมงานอะไรกันเหรอ อ้าว!!! พี่ณเดช ไม่รู้หรือคะว่า ทางสำนักเลขาฯ กำลังจะจัดงานครบรอบ 22 ปี แห่งการสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่  19  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ถวายแด่ สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก  (สุวฑฺฒน มหาเถระ-เจริญ  คชวัตร) เพราะจะถึงวันครบรอบในวันที่  21  เมษายน นี้แล้วนะคะ
   
อู๊ย....แย่แล้ว พี่นี่เป็นพุทธศาสนิกชนที่แย่จริง ๆ นะเนี่ย ไม่เคยรู้อะไรเลย แม้แต่วันสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชที่พี่ศรัทธายังจำไม่ได้  “อิ๋ว” ว่าพี่ณเดช อย่าว่าตัวเองเลยนะคะ  เออ ๆ แล้วอย่างนี้สำนักเลขาฯ จะทำงานอะไรกันบ้างล่ะ มีอะไรให้พี่ช่วยได้บ้าง ณเดชมีสีหน้าที่อยากจะถวายงานสมเด็จพระสังฆราชอย่างเต็มที่  เอาอย่างนี้ดีกว่า “อิ๋ว” จะพาพี่ณเดชไปหา พระครูสังฆสิทธิกร (อิริค สิริภทฺโท) หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช แล้วจะพาไปหา พระราชรัตนมงคล (มนตรี อภิมนติโก ยางธิสาร) ผู้ริเริ่มโครงการเนื่องในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ไปกันเลยดีกว่าค่ะพี่ณเดช
   
กราบนมัสการค่ะท่านเจ้าคุณราชรัตนมงคล กราบนมัสการค่ะหลวงพี่อิริค อิ๋วพาพี่ณเดชมากราบค่ะ กะว่าจะให้ท่านทั้ง 2 เล่าให้พี่ณเดชฟังว่า สำนักเลขาฯจะทำอะไรถวายสมเด็จพระสังฆราชกันบ้าง เผื่อจะมีอะไรให้พี่เขาช่วยค่ะ  กราบนมัสการ ครับ ณเดช กล่าว 
   
เจริญพรคุณณเดช ก่อนอื่น หลวงพี่อิริค  ต้องขอเท้าความให้ณเดชเห็นว่า วันนี้มีความสำคัญอย่างไรก่อนนะ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร  ทรงเป็นพระมหาเถระที่เพียบพร้อมด้วยพระคุณสมบัติทั้งในด้านปริยัติและ ปฏิบัติ  กล่าวคือในด้านปริยัติทรงเปรียญธรรม  9  ประโยคอันเป็นชั้นสูงสุดทางการศึกษาของคณะสงฆ์  ทั้งทรงรอบรู้ภาษาต่างประเทศ  เช่น  อังกฤษ  ฝรั่งเศส  สันสกฤต  เป็นอย่างดีเป็นเหตุให้ทรงมีความรู้เกี่ยวกับสังคมและโลกอย่างกว้างขวาง 
   
นอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถในด้านปริยัติแล้ว   ยังทรงเอาพระทัยใส่การปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน  และทรงปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่องตลอดมา  ทรงถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องปฏิบัติ  นอกจากทรงปฏิบัติด้วยพระองค์เองแล้ว  ยังทรงพระเมตตาแนะนำสั่งสอนสหธรรมิกและพุทธศาสนิกชนผู้สนใจทั่วไปด้วยจนเป็น ที่รู้จักกันว่าทรงเป็นพระมหาเถระฝ่ายวิปัสสนาธุระที่สำคัญพระองค์หนึ่งใน ยุคปัจจุบัน
   
ในด้านพระกรณียกิจพิเศษและสำคัญก็คือเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลปัจจุบันเสด็จออกทรงผนวชเป็นพระภิกษุ  เมื่อปี 2499  ขณะทรงดำรงสมณศักดิ์ที่  พระโศภนคณาภรณ์  ได้เป็นพระอภิบาล  (พระพี่เลี้ยง)ในพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พร้อมถวายความรู้เรื่องพระธรรมวินัยตลอดเวลาแห่งการทรงผนวช  อันเป็นเหตุให้ทรงเป็นที่ทรงเคารพนับถือในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอด มา  พร้อมทั้งทรงปฏิบัติพระศาสนกิจทั้งในด้านการศึกษา  การเผยแผ่  การปกครอง  และการสาธารณูปการ    คือก่อสร้างปฏิสังขรณ์พุทธสถานและสาธารณสถานอันเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาและ ประชาชนไว้เป็นจำนวนมาก
   
อืม.....อย่างนี้นี่เอง พระองค์ทรงบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน รวมทั้งยังดำรงพระองค์ให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศ ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมทางสำนักเลขาฯ จึงต้องจัดงานฉลองครบรอบ 22 ปี สมเด็จพระสังฆราช ในวันที่ 21 เมษายนนี้  ณเดช กล่าวด้วยความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ แล้วปีนี้สำนักเลขาฯ จะทำอะไรถวายครับ ณเดช ถามต่ออีก
   
ถามอย่างนี้ อาตมาก็ต้องตอบละสิ พระราชรัตนมงคล กล่าว พร้อมกับเล่าว่า ครั้งนี้อาตมาได้ทำโครงการสร้างอุโบสถดิน ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในครบรอบสถาปนา 22 ปี และถวายเป็นราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ด้วย ซึ่งโครงการนี้ จะเป็นการสร้างอุโบสถดินแห่งแรกในประเทศไทย
   
อุโบสถดินนี้เราจะสร้างขึ้นในพื้นที่บ้านห้วยยาง อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร โดยจะมีการสร้างอุโบสถ กุฏิ เจดีย์ ที่ทำจากดินทั้งหมด ซึ่งทางสำนักเลขาฯ ได้นำดินจากที่สังเวชนียสถาน 4 แห่ง จากประเทศเนปาล อินเดีย และดินจากพระสถูปโบราณสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช จากเมืองตักศิลา ประเทศปากีสถาน มาผสมเพื่อความเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดินด้วย
   
นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราช ยังได้ประทานพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่แกะสลักจากหินหยกที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เตรียมนำมาประดิษฐานเป็นพระประธาน เมื่ออุโบสถสร้างเสร็จแล้วอีกด้วย
   
โห!!!! แล้วอุโบสถดินจะใหญ่โตแค่ไหนละครับ เอ้.....แล้วจะใช้คนงานที่ไหนสร้างละครับ ณเดชถามด้วยความสงสัย  ถามดีนะโยม พระราชรัตนมงคล  กล่าวและบอกว่า อุโบสถดินไม่ใหญ่หรอกโยม จะเน้นความพอเพียงตามแนวปฏิบัติของทั้ง 2 พระองค์ มีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 15 เมตร จุพระได้ไม่น้อยกว่า 50 รูป ใช้งบประมาณก่อสร้าง ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะหวังว่าจะให้เป็นต้นแบบของวัดพอเพียง เนื่องจากทุกวันนี้การสร้างพระอุโบสถในวัดต่าง ๆ มีราคาสูง 10 ถึง 100 ล้านบาท แต่ไม่คุ้มประโยชน์ใช้สอย บางวัดมีพระจำพรรษาเพียงแค่ไม่กี่รูป
   
ส่วนแรงงานที่จะนำมาจัดสร้าง จะเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำที่กำลังจะพ้นโทษที่ผ่านการอบรมการฝึกอาชีพก่อ สร้างบ้านดินของกรมราชทัณฑ์ จะฝึกให้เขารู้จักการทำความดีให้สังคม อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดสกลนครสำรวจพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง ในการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว โดยทางจังหวัดสกลนครเห็นว่า วัดป่าพุทธนิมิต เป็นวัดกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีพระครูปลัดสมบัติ อาภัสสโร เป็นเจ้าอาวาส ในพื้นที่ 14 ไร่ 70 ตารางวา เหมาะที่จะสร้างอุโบสถดินมากที่สุด
   
ผมชักคันไม้คันมือแล้วครับท่านเจ้าคุณ อยากจะช่วยปั้นดินให้เป็นโบสถ์ ถวายแด่ 2 พระองค์แล้ว เอ้...อย่างนี้จะเริ่มกันเมื่อไหร่ครับ ณเดช ถาม พระราชรัตนมงคล บอกว่า ขณะนี้เราเริ่มแล้ว หากใครจะร่วมแรงร่วมใจทำบุญอุทิศถวาย สามารถติดต่อมาได้ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โทร. 0-2281-2831-2 นะโยม
   
ผมณเดช ขอใช้แรง และสองมือ ของผมปั้นดินถวายงานแด่สมเด็จพระสังฆราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสักครั้ง พระองค์ทรงสละหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อประชาชนของพระองค์มากมาย สิ่งเล็ก ๆ เพียงเท่านี้เราจะทำถวายพระองค์ท่านสักครั้งไม่ได้หรือ เกิดเป็นคนไทยอย่าลืมความเป็นไทย อย่าลืมบุญคุณของผู้มีพระคุณ อย่าลืมเสียสละทำความดี แผ่นดินนี้จะอยู่ได้อย่างสงบสุข.

มนตรี ประทุม

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=133471
+++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น